ชวนมาทำความรู้จักระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุด

ชวนมาทำความรู้จักระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุด

ทำความรู้จักระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุด คืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหน ในภาคการเกษตรระบบน้ำการเกษตรมีความสำคัญมาก ดังที่บทความของเราก่อนหน้านี้ได้เคยกล่าวถึงไป ซึ่งระบบน้ำการเกษตรนั้นมีหลากหลายรูปแบบ วันนี้เราจะพาท่านมาทำความรู้จักกับระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุดกัน ว่าคืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหน

ระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุด (Localize Irrigation) คืออะไร

ระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุด เป็นการให้น้ำบริเวณรากพืชโดยตรง น้ำจะค่อยๆถูกปล่อยจากหัวจ่ายน้ำลงสู่พื้นดิน และค่อยๆ ซึมลงไปในดินบริเวณรากพืช สามารถแบ่งได้ตามประเภทหัวจ่ายน้ำ ดังนี้
 

1.ระบบน้ำหยด (Drip)
ระบบน้ำหยดเป็นระบบน้ำการเกษตรที่มีลักษณะการให้น้ำแบบค่อยๆไหลลงไป ด้วยการปล่อยน้ำออกมาคราวละน้อยๆ ผ่านหัวน้ำหยดที่คอยควบคุมให้น้ำไหลออกมาเท่าๆ กันทุกจุด โดยใช้แรงดัน 5 - 10 เมตร และมีอัตราการไหลของหัวจ่ายน้ำที่ 1 - 8 ลิตรต่อชั่วโมง ระบบน้ำหยดเป็นระบบน้ำการเกษตรที่ได้รับความนิยมมาก เพราะประหยัดน้ำได้ดี เนื่องจากน้ำจะค่อย ๆ ไหลซึมลงไปผ่านผิวดิน รากพืชจะมีเวลาในการสูบน้ำได้ทัน

การสูญเสียน้ำจึงน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย และพืชที่ใช้ระบบน้ำการเกษตรแบบน้ำหยด ยังให้ผลผลิตต่อไร่ค่อนข้างสูง เพราะการให้น้ำมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถกำหนดจุดปล่อยน้ำสู่รากพืชได้ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดี และให้ผลผลิตมากกว่าเมื่อเทียบกับการให้น้ำแบบอื่น เช่น การให้น้ำผ่านคู ร่องน้ำ ทั้งยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์จ่ายปุ๋ยได้ เกษตรกรจึงสามารถให้ปุ๋ยพร้อมกับการให้น้ำได้เลย ประหยัดเวลา และลดการใช้แรงงาน และยังช่วยลดวัชพืชได้

เนื่องจากเป็นการให้น้ำที่จุดบริเวณรากพืชเท่านั้น ระบบน้ำหยดเหมาะกับ? ระบบน้ำการเกษตรแบบน้ำหยด เหมาะสำหรับการให้น้ำพืชไร่ เช่น ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง พืชผักที่ปลูกเป็นแถวชิด หรือ ไม้ผลบางชนิด ยกเว้นพืชที่ปลูกแบบการหว่านเมล็ด เพราะการขึ้นของพืชจะไม่มีระยะที่แน่นอน ทำให้การวางระบบน้ำหยดทำได้ยาก ข้อควรระวัง หัวน้ำหยดจะอุดตันง่ายต้องใช้เครื่องกรองเกษตรละเอียดมาก ต้องทำการตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมและหมั่นล้างไส้กรองทุกวัน
 

2.ไมโครสเปรย์ (Micro Spray) และเจ็ท ( Jet )
ไมโครสเปรย์และเจ็ทเป็นระบบน้ำการเกษตรที่ใช้แรงดัน 10 – 20 เมตร และอัตราการไหลของหัวปล่อยน้ำอยู่ที่ 10 – 200 ลิตรต่อชั่วโมง ระบบไมโครสเปรย์และเจ็ทเหมาะกับ? เหมาะสำหรับไม้ผล ไม้ยืนต้น ที่มีระยะปลูกไม่เกิน 5 เมตร เช่น มะม่วง ส้ม องุ่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้อควรระวัง ต้องใช้เครื่องกรองเกษตรละเอียดค่อนข้างมาก และล้างไส้กรองทุกวัน
 

3.ระบบมินิสปริงเกอร์ (Mini Sprinkler)
เป็นระบบน้ำการเกษตรที่คล้ายกับระบบแบบสปริงเกอร์ แต่ขนาดหัวจ่ายน้ำจะเล็กกว่า เป็นการให้น้ำเฉพาะบริเวณที่มีต้นพืช รัศมีพ่นประมาณ 1 – 3 เมตร และอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่ายอดของพืช ใช้แรงดัน 10 - 20 เมตร และมีอัตราการไหลของหัวจ่ายน้ำอยู่ที่ 10 - 200 ลิตรต่อชั่วโมง ระบบมินิสปริงเกอร์เหมาะกับ? เหมาะสำหรับไม้ผล ระยะเกิน 5 เมตรขึ้นไป นิยมใช้กับสวนผลไม้ที่ชอบการให้น้ำบริเวณโคนของต้นไม้ และเหมาะสำหรับพืชผักที่ปลูกเป็นแปลงแบบหว่าน หรือแบบต้นกล้า เพราะมีใบหมุนน้ำช่วยให้น้ำเป็นฝอยและกระจายเป็นวง ทำให้ต้นกล้าไม่เสียหาย
 

ข้อควรระวัง
ถ้ำใบหมุนชำรุดจะใช้งานไม่ได้ และต้องใช้เครื่องกรองเกษตรละเอียดปานกลางและล้างไส้กรองทุกวัน

เมื่อทำความรู้จักกับระบบน้ำการเกษตรแบบเฉพาะจุดกันแล้ว หากต้องการติดตั้งให้กับพืชสวน พืชไร่ของท่าน สามารถเข้ามาเลือกซื้ออุปกรณ์เกษตรแบบเฉพาะจุด อาทิ หัวน้ำหยด มินิสปริงเกอร์ หัวฉีดสเปรย์ ได้ที่ กนก โปรดักส์ เราคือผู้เชี่ยวชาญ ระบบน้ำการเกษตร แบบครบวงจร ตั้งแต่ระบบต้นน้ำ ไปจนถึงระบบปลายน้ำ เช่น ฟุตวาล์ว กรองเกษตร ท่อ PE ท่อพีวีซี PVC หัวดูดน้ำ เทปน้ำหยด เทปน้ำพุ่ง สปริงเกอร์ อุปกรณ์ ข้อต่อ PVC ข้อต่อ PE วาล์วเปิด-ปิดน้ำ เช็ควาล์ว มินิสปริงเกอร์ ฯลฯ คุณภาพคุ้มค่า ในราคายุติธรรม ปรึกษาโดยทีมงานมือออาชีพ ครบจบในที่เดียว

 

สนใจสินค้าหรือสอบถามบริการสามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่าง
โทร 02-451-1111 *185 - 187
Facebook : Kanokproduct
Line : @kanokonline